ความหมายศีลธรรม ทั้งในสังคม, ศาสนา, กฏหมาย

ความหมายของศีลธรรม
X
Advertisements

ศีลธรรมคือชุดของมาตรฐานที่ช่วยให้ผู้คนสามารถอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มได้ เป็นสิ่งที่สังคมกำหนดว่า “ถูกต้อง” และ “เป็นที่ยอมรับ” บางครั้งการประพฤติปฏิบัติอย่างมีศีลธรรมหมายความว่าบุคคลต้องเสียสละผลประโยชน์ระยะสั้นของตนเองเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคม บุคคลที่ขัดต่อมาตรฐานเหล่านี้อาจถือว่าผิดศีลธรรม

ศีลธรรมเกิดขึ้นได้อย่างไร

ศีลธรรมไม่คงที่ สิ่งที่ถือว่ายอมรับได้ในวัฒนธรรมของคุณอาจไม่เป็นที่ยอมรับในวัฒนธรรมอื่น พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ศาสนา ครอบครัว และประสบการณ์ชีวิตล้วนมีอิทธิพลต่อศีลธรรม

ความหมายของคำว่าศีลธรรม

คำว่าศีลธรรม แปลตามตัวคือ ธรรมที่ดำรงความเป็นปกติสุขของมนุษย์ ซึ่งตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า moral คือ หมายถึงประเพณีหรือวิถีของชีวิต ในปัจจุบัน ใช้ในความหมายถึงตัวของความประพฤติโดยตรง

หลักเกณฑ์สำคัญของศีลธรรม คือการสร้างกฏที่ทำให้คนมีพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น มีความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น มีความประพฤติดี เว้นสิ่งที่ควรเว้น ทำสิ่งที่ควรท า แสวงหาคำตอบว่า อะไรดี อะไรชั่ววิเคราะห์เบื้องต้นแห่งพฤติกรรมมนุษย์ว่า เขาประพฤติเช่นนั้น เพราะอะไร มีอะไรอยู่เบื้องหลังแห่งการกระทำนั้น จริยศาสตร์ จึงเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยอุดมคติทางศีลธรรม นิสัย อุปนิสัยและอัธยาศัย เป็นส่วนภายในของคน รู้สิ่งเหล่านี้ได้จากความประพฤติที่ปรากฏออกมาทางกาย วาจา จริยศาสตร์จึง เป็นศาสตร์ที่พูดถึงความดีสูงสุดของมนุษย์เท่าที่มนุษย์จะมีได้ จะบรรลุถึงได้ ให้เลือกท าสิ่งที่มีคุณค่าเหนือกว่า เมื่อมีสิ่งที่มีคุณค่าด้วยกันหลายๆ อย่าง ดังนั้น ศีลธรรม จึงว่าด้วยความถูก ความผิด ความดี ความชั่ว และวิเคราะห์ถึงความดี ถึงความดีตามอุดมคติในสังคม ไม่ใช่ความดีของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเห็นว่าดี แต่ต้องการให้เป็นความดีสากลที่เรียกว่า ความดีแบบภาววิสัย

ศีลธรรมเป็นเรื่องของกฎเกณฑ์ของการประพฤติปฏิบัติที่มนุษย์แสดงออกมาตามครรลองของชีวิตและสังคมซึ่งได้รับการอบรมฝึกฝนขัดเกลามาจากอดีต เป็นการบังคับความคิด ความต้องการของตนตามหลักเหตุผลเพื่อไม่ให้ปัจเจกชนและสังคมด าเนินไปตามอารมณ์ความเห็นแก่ตัวอย่างผิดพลาดจนเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนของตนเองและสังคม ซึ่งหากละเมิดย่อมควรได้รับการทำโทษ

องค์ประกอบของศีลธรรมพื้นฐานคือ

  1. การตัดสินใจซึ่งมีวัตถุประสงค์เฉพาะอย่าง
  2. ประกอบด้วยเหตุผลที่ตัดสินไว้ว่าสิ่งซึ่งถือเป็นสินใจนั้นจะต้องเป็นส่วนที่เหมาะสม
  3. ศีลธรรมต้องประกอบด้วยกฎเกณฑ์ หลักการอุดม และคุณธรรมบางอย่างที่มีแรงกระตุ้นให้ทำการนั้น
  4. ศีลธรรมประกอบด้วยการตัดสินใจตามความรู้สึกเฉพาะของแต่ละคนโดยความรู้สึกนั้นต้องมีเหตุผลสนับสนุนให้คล้อยตามกฎเกณฑ์ หลักการ และอุดมคติ
  5. ศีลธรรมเป็นแรงผลักหรือแรงเสริมจงใจบางอย่างและอาจแสดงออกในการตัดสินทางวาจาคือการต้องรับผิดชอบ ทั้งการสรรเสริญและการทำโทษตำหนิเป็นหลัก

ศีลธรรมกับสังคม

มนุษย์แตกต่างจากสัตว์ทั่วไปตรงที่สามารถใช้เหตุผลมากกว่าสัญชาตญาณการสร้างสำนึกผิด ชอบชั่วดีจึงไม่เกิดขึ้นในสัตว์ ดังนั้นพฤติกรรมเชิงศีลธรรมจึงเกิดขึ้นเฉพาะในมนุษย์ซึ่งสามารถใช้ วิจารณญาณเหตุผลประกอบก่อนที่จะแสดงพฤติกรรมออกมา เมื่อมนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มเพื่อความอยู่ รอดซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นกลุ่มสังคมทำให้มนุษย์จะต้องแสดงปฏิสัมพันธ์ต่อกัน มีความเห็นและความ ขัดแย้งเกิดขึ้นตามมา การที่มีความเห็นด้วยและความขัดแย้งกันเป็นสาเหตุที่ต้องทำให้มนุษย์ต้องคิดหา วิธีการเหตุผลมาสนับสนุนหรือคัดค้านการแสดงออกต่างๆ เพื่อให้ชีวิตอยู่ได้ในสังคม และทำให้สังคมอยู่อย่างสงบ มีความมั่นคง ไม่วุ่นวาย การฝึกใช้วิจารณญาณความคิดและเหตุผลและประมวลประสบการณ์ ทำให้มนุษย์เกิดความเชื่อและธรรมเนียมปฏิบัติได้ถูกน ามาใช้และท าให้กลายเป็นเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ทาง ศีลธรรมซึ่งมีความจำเป็นในสังคม สามัญสำนึกเชิงศีลธรรมของมนุษย์นี้จึงมีวิวัฒนาการไปพร้อมกับ ความคิดโดยเริ่มจากสัญชาตญาณ และการใช้วิจารณญาณต่างๆ ตามลำดับ

ศีลธรรมกับศาสนาพุทธ

ศีลธรรมในศาสนาพุทธหมายถึง เบญจศีล และ เบญจธรรม คือศีล 5 และธรรม 5 ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ของสังคมระดับต้นสำหรับให้สมาชิกสังคมประพฤติปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสงบสุข ไม่สดุ้งกลัว ไม่หวาดระแวงภัย เป็นหลักประกันสังคมที่สำคัญ สังคมที่สงบสุข ไว้วางใจกันได้ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ไม่เบียดเบียน ไม่ทะเลาะ ไม่กดขี่ข่มเหง ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน เป็นต้น ก็เพราะสมาชิกของสังคมยึดมั่นอยู่ในหลักศีลธรรมนี้

ศีลธรรมที่อยู่เหนือกาลเวลาและวัฒนธรรม

ศีลธรรมส่วนใหญ่ไม่ได้รับการแก้ไข พวกเขามักจะเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ในบางภูมิภาค วัฒนธรรม และศาสนา การใช้การคุมกำเนิดถือเป็นการผิดศีลธรรม ในส่วนอื่นๆ ของโลก บางคนถือว่าการคุมกำเนิดเป็นสิ่งที่ต้องทำ เนื่องจากช่วยลดการตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผน จัดการประชากร และลดความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ศีลธรรมบางอย่างดูเหมือนจะอยู่เหนือโลกและข้ามกาลเวลา นักวิจัยได้ค้นพบว่าศีลธรรมทั้งเจ็ดนี้ดูค่อนข้างเป็นสากล

  • กล้าหาญไว้
  • ยุติธรรม
  • ไม่รักษาอำนาจ
  • ช่วยกลุ่มของคุณ
  • รักครอบครัว
  • ตอบแทนบุญคุณ
  • เคารพผู้อื่น

ศีลธรรมกับกฎหมาย

ทั้งกฎหมายและศีลธรรมมีขึ้นเพื่อควบคุมพฤติกรรมในชุมชนเพื่อให้ผู้คนอยู่ร่วมกันได้ ทั้งสองมีรากฐานที่มั่นคงในแนวคิดที่ว่าทุกคนควรมีเอกราชและเคารพซึ่งกันและกัน

นักคิดทางกฎหมายตีความความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายกับศีลธรรมต่างกัน บางคนโต้แย้งว่ากฎหมายและศีลธรรมเป็นอิสระ ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถละเลยกฎหมายได้เพียงเพราะพวกเขาไม่สามารถป้องกันได้ทางศีลธรรม

คนอื่นเชื่อว่ากฎหมายและศีลธรรมเป็นที่พึ่งพิงซึ่งกันและกัน นักคิดเหล่านี้เชื่อว่ากฎหมายที่อ้างว่าควบคุมความคาดหวังด้านพฤติกรรมต้องสอดคล้องกับบรรทัดฐานทางศีลธรรม ดังนั้นกฎหมายทุกฉบับจึงต้องรักษาสวัสดิภาพของบุคคลและอยู่ในสถานที่เพื่อประโยชน์ของชุมชน

อาจมีบางครั้งที่บางคนโต้แย้งว่าการทำผิดกฎหมายเป็น “ศีลธรรม” ที่ต้องทำ ตัวอย่างเช่น การขโมยอาหารไปเลี้ยงคนหิวโหยอาจผิดกฎหมาย แต่ก็อาจถือได้ว่าเป็น “สิ่งที่ถูกต้อง” หากเป็นวิธีเดียวที่จะป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทุกข์ทรมานหรือตายได้

ingaplife

ความรู้ศีลธรรม